พระคริสต์ทรงพระชนม์ บุตรของพระเจ้าและพี่น้องของเรา!!!
ครั้งนั้น 1 พระเยซูทรงปรากฏแก่เหล่าสาวกอีก ที่ชายฝั่งทะเลทิเบเรียส การประจักษ์เป็นดังนี้ 2 ซีโมน เปโตร โธมัสชื่อดิดีมัส นาธานาเอลแห่งคานาแห่งกาลิลี บุตรของเศเบดีและสาวกอีกสองคนของพระเยซูอยู่ด้วยกัน 3ซีโมนเปโตรบอกพวกเขาว่า “ฉันกำลังจะไปตกปลา” พวกเขากล่าวว่า "เราจะไปด้วย" พวกเขาออกไปและขึ้นเรือ แต่ในคืนนั้นพวกเขาจับอะไรไม่ได้ 4 มันเช้าแล้ว และพระเยซูกำลังยืนอยู่บนฝั่ง แต่เหล่าสาวกไม่รู้ว่าเป็นพระเยซู 5แล้วพระเยซูตรัสว่า “พวกหนุ่มๆ มีอะไรกินบ้าง” พวกเขาตอบว่า: "ไม่" 6พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เหวี่ยงแหไปทางด้านขวาของเรือแล้วจะพบ” เขาก็เลยเหวี่ยงแหออกไปไม่ได้เพราะว่าปลามีมาก 7สาวกที่พระเยซูทรงรักพูดกับเปโตรว่า “คือพระเจ้า!” เมื่อซีโมนเปโตรได้ยินว่าเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาก็สวมฉลองพระองค์ เพราะพระองค์เปลือยเปล่าและเสด็จลงไปในทะเล 8สาวกคนอื่นๆ มากับเรือลากอวนไปกับปลา อันที่จริงพวกเขาอยู่ไม่ไกลจากแผ่นดิน แต่ห่างออกไปเพียงร้อยเมตรเท่านั้น 9 ครั้นเมื่อเหยียบแผ่นดินแล้ว ก็เห็นถ่านที่ลุกอยู่ มีปลาอยู่ด้านบน และเห็นขนมปัง 10 พระเยซูเจ้าตรัสกับพวกเขาว่า "จงเอาปลาที่ท่านจับได้มาบ้าง" 11แล้วซีโมนเปโตรขึ้นเรือลากอวนขึ้นฝั่ง มีปลาใหญ่อยู่เต็มหนึ่งร้อยห้าสิบสามตัว และถึงแม้จะมีปลามากมาย แต่อวนก็ไม่ขาด 12 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า "มากินกันเถอะ" ไม่มีสาวกคนใดกล้าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะพวกเขารู้ว่าเป็นพระเจ้า 13 พระเยซูเสด็จมาหยิบขนมปังส่งให้พวกเขา และเขาก็ทำแบบเดียวกันกับปลา 14นี่เป็นครั้งที่สามที่พระเยซูทรงฟื้นจากความตายมาปรากฏแก่เหล่าสาวก 9หลังจากที่พระองค์ฟื้นคืนพระชนม์แล้ว ในรุ่งเช้าของวันแรกหลังวันสะบาโต พระเยซูทรงปรากฏแก่มารีย์ชาวมักดาลาเป็นครั้งแรก ซึ่งพระองค์ทรงขับผีเจ็ดตนจากพระองค์ 10นางไปบอกเหล่าสาวกของพระเยซูที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญ 11 เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่และได้เห็นพระนางก็ไม่เชื่อพระองค์ 12แล้วพระเยซูทรงปรากฏแก่พวกเขาสองคน ดูต่างออกไป ขณะที่พวกเขากำลังออกไปในทุ่ง 13พวกเขากลับมาเล่าให้คนอื่นฟังด้วย พวกเขายังไม่ให้เครดิต 14 ในที่สุด พระเยซูเจ้าทรงปรากฏแก่สาวกสิบเอ็ดคนขณะรับประทานอาหาร ทรงตำหนิพวกเขาเพราะขาดความเชื่อและใจแข็งกระด้าง เพราะพวกเขาไม่เชื่อผู้ที่ได้เห็นพระองค์เป็นขึ้นมา 15พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “จงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน!” 9 เมื่อถึงเวลาเย็นในวันนั้น ซึ่งเป็นต้นสัปดาห์ เมื่อประตูสถานที่ที่พวกสาวกถูกปิดเพราะกลัวพวกยิว พระเยซูเสด็จเข้ามาและยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขาตรัสว่า "สันติสุขจงมีแด่ท่าน ” 20หลังจากถ้อยคำเหล่านี้แล้ว พระองค์ทรงแสดงพระหัตถ์และสีข้างให้ดู แล้วเหล่าสาวกก็ชื่นชมยินดีที่ได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้า 21 พระเยซูตรัสอีกว่า “สันติภาพจงมีแด่ท่าน ดังที่พระบิดาทรงส่งเรามา ข้าพเจ้าจึงส่งท่านไป” 22เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ก็ทรงสูดลมหายใจเหนือพวกเขาและตรัสว่า “จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ 23 ผู้ใดที่พระองค์ทรงยกบาป ผู้นั้นจะได้รับการอภัย ใครก็ตามที่เจ้าไม่ยกโทษให้พวกเขา พวกเขาจะถูกคุมขังไว้” 24โทมัสที่เรียกว่าดิดีมัส ซึ่งเป็นหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคนไม่ได้อยู่กับพวกเขาเมื่อพระเยซูเสด็จมา 25สาวกคนอื่นๆ บอกเขาว่า “เราได้เห็นพระเจ้าแล้ว!” แต่โธมัสพูดกับพวกเขาว่า "ถ้าข้าพเจ้าไม่เห็นรอยตะปูที่มือของท่าน ถ้าข้าพเจ้าไม่เอานิ้วแตะรอยเล็บและวางมือที่สีข้างท่าน ข้าพเจ้าก็จะไม่เชื่อ" 26แปดวันต่อมา เหล่าสาวกกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านอีกครั้ง และโธมัสก็อยู่กับพวกเขา เมื่อประตูปิดลง พระเยซูเสด็จเข้ามา ยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขาและตรัสว่า “สันติสุขจงมีแด่ท่าน” 27แล้วพระองค์ตรัสกับโธมัสว่า “เอานิ้วของท่านมาที่นี่และดูมือของเรา เอื้อมมือออกไปแล้ววางไว้ข้างฉัน และอย่าเชื่อ แต่จงสัตย์ซื่อ” 28โทมัสตอบว่า “พระเจ้าของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า!” 29 พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านเชื่อเพราะเห็นเราหรือ? ความสุขมีแก่ผู้ที่เชื่อโดยไม่เห็นหน้า!” 30พระเยซูทรงทำการอัศจรรย์หลายอย่างต่อหน้าเหล่าสาวก ซึ่งไม่มีเขียนไว้ในหนังสือนี้ 31แต่ข้อความเหล่านี้มีเขียนไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะเชื่อว่าพระเยซูคือพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า และโดยความเชื่อ ท่านจะมีชีวิตในพระนามของพระองค์
Nenhum comentário:
Postar um comentário
EXPRESSE O SEU PENSAMENTO AQUI.